อันตรายจาก Data roaming และวิธีการป้องกัน

ควรระวังตัว Data roaming ไว้ให้ดี เราจะมีวิธีจัดการกับมันอย่างไร มีวิธีดังนี้

จากข่าวที่ดังใน Pantip มีผู้ใช้บริการรายนึงเสียค่าบริการ Data Roaming ไป 2,103,588 บาท ในเวลา 16 วัน

จากภาพอันตรายใช่ไหมครับ 2 ล้านบาทไม่ใช่น้อยๆ เลยนะ ถึงกับว่า มีบ้านขายบ้านมีรถขายรถกันเลยทีเดียว ซึ่งเราควรศึกษาเรื่อง Roaming พวกนี้ก่อนที่จะเพลอไปตกเป็นเหยือของค่าบริการสุดโหดนี้ครับ

       เรามารู้เรื่องคร่าวๆ ของเจ้าตัว Roaming กันก่อนนะครับ สำหรับคนที่ยังไม่รู้เรื่องว่า Roaming หรือ Data Roaming คืออะไร iPlayTrickZ มีคำตอบครับ เริ่มจากความหมายของ Roaming ก่อนเลยนะครับ

โรมมิ่ง (Roaming) หรือ บริการข้ามแดนอัตโนมัติ โรมมิ่ง (Roaming) หรือ บริการข้ามแดนอัตโนมัติ  เป็นบริการเสริมสำหรับผู้ใช้โทรศัพท์มือถือให้ได้ใช้เลขหมายเดิมเพื่อการติด ต่อขณะอยู่ต่างประเทศ ทำให้ได้รับความสะดวกและไม่พลาดการสื่อสารระหว่างครอบครัว เพื่อน หรือการติดต่องาน

ประเภทของ Roaming ทั้งหมดมีอยู่  3 ประเภทคือ

1. โรมมิ่ง มีทั้งบริการประเภทเสียง (Voice Roaming) ทำให้สามารถใช้เลขหมายเดิม ในการโทรออกและรับสาย ขณะอยู่ต่างประเทศ 
2. โรมมิ่งข้อความ (SMS Roaming) สามารถรับ-ส่งข้อความสั้น หรือเอสเอ็มเอส ได้ตามปกติ 
3. โรมมิ่งข้อมูล (Data Roaming) สามารถเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตผ่านโทรศัพท์มือถือ ผ่านคอมพิวเตอร์โดยใช้แอร์การ์ด (AirCard) สามารถรับ-ส่ง MMS สามารถแชทผาน Messenger ทั้ง MSN BB WhatsApp Facebook  

Do&Don’t หากคิดสมัครใช้บริการโรมมิ่ง

  เพื่อเป็นการป้องกันปัญหา Bill Shock (บิลที่ค่าบริการเว่ออ อย่างไม่น่าเชื่อครับ) ที่อาจเกิดตามมา หากผู้ใช้บริการโทรศัพท์มือถือต้องการสมัครใช้บริการโรมมิ่ง ควรต้องศึกษาสิ่งที่
ควรปฏิบัติ (DO) และสิ่งที่ไม่ควรปฏิบัติ (Don’t)  ให้ละเอียด

DO สิ่งที่ควรทำเป็นอย่างยิ่ง

1. ศึกษาข้อมูลการใช้บริการจากเว็บไซต์ผู้ให้บริการ
2. ศึกษาค่าใช้จ่ายทุกประเภท เช่น ค่ารับสายต่อนาที หรือกรณี Missed Call หรือกดไม่รับสาย เป็นต้น 
3. ควรแจ้งเครือข่ายผู้ให้บริการเพื่อเปิดบริการที่ต้องการสมัครใช้ และแจ้งปิด บริการที่ไม่ต้องการสมัครใช้ 
4. ควรจดจำชื่อเครือข่ายและชื่อที่แสดงบนโทรศัพท์มือถือของเครือข่ายที่อยู่ใน แพ็คเกจที่สมัคร(ซึ่งบางเครือข่ายมีชื่อที่แสดงบนโทรศัพท์มือถือมากกว่า 1 ชื่อ) 
5. ควรตั้งค่าเครื่องโทรศัพท์มือถือให้เลือกรับสัญญาณเฉพาะเครือข่ายตามแพ็คเกจที่สมัคร เมื่อเดินทางไปถึงประเทศนั้นๆ 
6. ควรปิดระบบการเชื่อมต่อสัญญาณแบบอัตโนมัติ  โดยเฉพาะในกรณีที่สมัครแพ็คเกจ Unlimited เนื่องจากแพ็คเกจนี้มีข้อจำกัดในการใช้โดยจะใช้ได้ เฉพาะบางเครือข่ายที่ทำข้อตกลงไว้กับผู้ให้บริการของไทยเท่านั้น ดังนั้นหากท่านสมัครใช้แพ็คเกจนี้ จะต้องปิดการเชื่อมต่อสัญญาณอัตโนมัติด้วย เพื่อป้องกันการเชื่อมต่อสัญญาณอัตโนมัติไปใช้สัญญาณเครือข่ายอื่นที่อยู่นอกแพ็คเกจที่สมัคร 
7. ควรปิดระบบการเชื่อมต่อสัญญาณอินเทอร์เน็ตผ่านเครื่องโทรศัพท์มือถือ หรือ Data Roaming  ในกรณีที่ต้องการใช้สัญญาณ Wifi เนื่องจากกรณีหากสัญญาณ Wifi อ่อน เครื่องโทรคมนาคม ทั้ง SmartPhone iPad Tablet จะเชื่อมต่อกับสัญญาณของเครือข่ายที่แรงกว่าทันที
   ข้อดีคือ ทำให้การสื่อสารประเทศที่มีการให้บริการ 3G แล้ว เนื่องจากภายใน 1 วินาที จะสามารถส่งปริมาณข้อมูลได้จำนวนมากขึ้น 
8. ควรแจ้งปิดบริการข้ามแดนอัตโนมัติ (Roaming) เมื่อเดินทางกลับประเทศไทย เพื่อป้องกันปัญหาการเชื่อมต่อสัญญาณอัตโนมัติหากเดินทางหรืออาศัยอยู่ในพื้นที่ใกล้กับประเทศเพื่อนบ้าน เมื่อมีกำหนดเดินทางไปต่างประเทศอีกครั้ง หากต้องการใช้บริการโรมมิ่งก็ให้แจ้งเปิดใช้บริการเป็นครั้งเป็นคราวไป Do

Don’t สิ่งที่ไม่ควรทำอย่างยิ่ง

1.  อย่าตั้งการโอนสายจากเครื่องโทรศัพท์มือถือของคุณที่อยู่ในประเทศไทย เพื่อโอนสายไปยังเครื่องที่นำไปใช้งานในต่างประเทศ เพราะจะทำให้เสียค่า ใช้จ่ายมากขึ้น 
2. อย่าใช้โทรศัพท์มือถือที่เปิดบริการโรมมิ่ง ในการโทรผ่านบัตรโทรศัพท์ที่ซื้อในประเทศนั้นๆ เพราะคุณจะต้องเสียเงิน 2 ต่อ 
3. อย่าวางใจว่าการจำกัดวงเงินการใช้งานสูงสุดจะช่วยจำกัดค่าใช้จ่ายของคุณได้  เนื่องจากความล่าช้าในการรายงานข้อมูลการใช้บริการระหว่างเครือข่ายต่างประเทศและผู้ให้บริการของไทย โดยล่าช้า 1-2 วันเป็นอย่างน้อยและ 30 วันเป็นอย่างสูง จึงไม่แนะนำให้ผู้ใช้บริการวางใจว่าวิธีการนี้จะทำให้การจำกัดวงเงินของคุณได้ผล เนื่องจากพบว่า ผู้ร้องเรียนจำนวนหนึ่งได้จำกัดวงเงินสูงสุดไว้แต่ยังถูกเรียกเก็บค่าบริการ เกินจำนวนวงเงินที่จำกัดไว้
4. อย่าตั้งการโอนสายสายเครื่องโทรศัพท์มือถือที่อยู่ในประเทศไทย ไปยังเครื่องที่นำไปใช้งานในต่างประเทศ 
5. อย่าใช้โทรศัพท์มือถือที่เปิดบริการโรมมิ่งโทรผ่านบัตร   โทรศัพท์ที่ซื้อในประเทศนั้นๆ 
6. อย่าวางใจ “การจำกัดวงเงินการใช้งานสูงสุด”

ขั้นตอนการเลือกเครือข่ายของโทรศัพท์มือถือรุ่นที่นิยมในปัจจุบัน  

  iPhone    
  ไปที่ Setting >> Carrier >> จากนั้นเครื่องจะแสดงเครือข่ายต่างๆ >> เอาเครื่องหมาย √ ตรง Automatic ออก และทำการเลือกชื่อ
เครือข่ายที่ต้องการในรายชื่อที่ ปรากฏอยู่ ในกรณีที่ไม่มีสัญญาณของเครือข่ายที่ได้เลือกไว้ เครื่องจะแสดงข้อความหน้าจอว่า “Network Loss”
ให้เลือก Dismiss ทุกครั้ง เพื่อให้เครื่องหาสัญญาณเฉพาะเครือข่ายที่ได้เลือกไว้ตั้งแต่แรก

  BlackBerry
 ไปที่เมนู Blackberry >> เลือก Manage Connection >> เลือก Mobile Network Options >> เลือก Network Selection Mode และ
กดเลือกระบบ Manual >> ไปที่เมนู Select Automatic Mode When Manually Selected Network is Not Available และ กดเลือก No >>
เลื่อนหน้าจอลงมาข้างล่างจะพบชื่อเครือขายที่สามารถใช้งานได้ และจากนั้นเลือกเครือข่ายที่ต้องการใช้งาน

  Android
  ไปที่ เมนู Setting >> เลือกเมนู Wireless and Network >> เลือกเมนู Mobile Networks >> เลือกเมนู Network Operator >> เลือกเมนู
Search networks เมื่อเข้าไปในเมนูแล้วระบบจะแสดงรายชื่อเครือข่ายที่สามารถใช้งานได้ จากนั้นกดเลือกเครือข่ายที่ต้องการ

  สำหรับมือถือยี่ห้ออื่น
  โดยทั่วไปเข้าไปที่เมนู Setting >> เลือก Network Service หรือ Network Selection จากนั้นให้เลือกเครือข่ายแบบ Manual แล้วเครื่องจะแสดงเครือข่ายที่ใช้งานได้ และเลือกเครือข่ายที่ต้องการใช้งาน

** พอดีไม่มีโทรศัพท์ Blackberry และ Android จึงไม่สามารถนำรูปมาประกอบวิธีทำได้ ต้องขออภัยด้วยนะครับ **

จากบทความนี้น่าจะเป็นประโยชน์ให้กับผู้ที่ใช้งานอินเทอร์เน็ตบ้าง ไม่มากก็น้อยนะครับ
ให้คำแนะนำกันได้นะครับไว้พบกันกับเรื่องต่อไป ขอบคุณมากที่สละเวลา อ่านบทความนะครับ

Credit ข้อมูล Roaming >> สบท. :: สถาบันคุ้มครองผู้บริโภคในกิจการโทรคมนาคม
ผู้เรียงบทความ Nitirath Sompetch